บัญชีลูกค้าทันทีจักรยานล้อโตโดยไม่ยอมหาวิธี

ในชีวิตการทำงานที่เป็นจริง มีคนอยู่จำนวนหนึ่งครับเป็นพวก ลัทธิเถรตรง
ฝ่ายเร่งรัดหนี้สินที่ติดตามทวงหนี้จากลูกหนี้ลูกหนIม่จ่ายเงิน ตามกำหนด เขาก็ตัดชื่อออกจากบัญชีลูกค้าทันทีโดยไม่ยอมหาวิธี ผ่อนปรนอะไร จักรยานล้อโต
ฝ่ายเก็บเงินลูกค้า กะเกณฑ์ให้ลูกค้าต้องจ่ายเงินเป็นเช็ค อย่างเดียว ลูกค้าจะจ่ายเงินสดก็ไม่ยอมรับ
ผู้จัดการฝ่ายบุคคลพบว่าพนักงานมีความผิดอะไรก็ตามต้องใช้ กฎระเบียบบริษัทเล่นงานพนักงานทันทีทันควัน
ฝ่ายจัดส่งสินค้าจะขอส่งของให้ลูกค้าด้วยวิธีการเดียวเท่านั้น ซึ่งช้าไม่ทันความต้องการของลูกค้า แทนที่จะหาวิธีส่งอย่างอื่นที่รวดเร็ว กว่าไต้
ฝ่ายบริการไม่ยอมบริการอะไรให้ลูกค้านอกเหนือจากบริษัท ให้ทำทั้ง ๆ ที่สามารถทำไดโดยไม่ไต้เพิ่มค่าใช้จ่ายอะไรขึ้นมา จักรยาน fat bike
นี่คือลัทธิเถรตรงที่ทำลายสัมพันธภาพระหว่างผู้ขาย กับ ผู้ซึ้อ ระหว่างบุคคลต่อบุคคล ระหว่างบริษัทต่อบริษัท
ในการทำงานที่เป็นจริง มักมีรายละเอียดวิธีการต่าง ๆ ที่อาจ อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่กำหนดไว้และมักจะมีสถานการณ์ใหม่ ที่ต้องใชวิจารณญาณซึ่งแตกต่างไปจากกฎเกณฑ์ที่วางไว้เดิม
กรรมการผู้จัดการของบริษัทหนึ่งหัวเสียเอามาก ๆ กับบรรดา ผู้จัดการฝ่ายทั้งหลายที่มาทำงานสายกันเป็นประจำ เขามาถึงที่ทำงาน ตอน ๙.๓๐ น. ปรากฏว่าลูกน้องมากันเพียง ๒-๓ คน จากจำนวน พนักงานทั้งหมด ๑๘ คน
พอเข้มงวดกวดขันกันที ก็มาเช้ากันสักพักแล้วก็เช้ารูปเดิมอีก เหตุที่ลูกน้องมาสายไม่ใช่อะไรอื่นครับ เป็นเพราะผู้จัดการก็
มาสาย
มีเหตุแก้ตัวกันไปเป็นทอด ๆ
ถามว่าความผิดอยู่ตรงไหนก็ควรตอบว่าอยู่ที่ผูใหญ่ไม่ทำตน
เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกน้อง จักรยาน
ผมได้สังเกตพฤติกรรมของบุคคลในองค์การหลาย ๆ แห่ง
ได้พบความเป็นจริงว่า บรรยากาศในการทำงานจะดีหรือไม่ จะมีชีวิตชีวา
หรือไม่ อยู่ที่ด้นแบบคือผู้Iหญ่ในบริษัทนั้น ๆ นั่นเอง ผูใหญ่มาสาย ลูกน้องมาสายด้วย ฝูใหญ่เฉื่อยงาน ลูกน้องเฉื่อยงานด้วย ผู้ใหญ่ไม่รับผิดชอบ ลูกน้องก็ไม่รับผิดชอบด้วย ผู้Iหญ่โยนความผิดให้ผู้อื่นเป็นประจำ สูกน้องก็ทำอย่างนั้นด้วย ครั้นผูใหญ่กระฉ้บกระเฉงปีชีวิตชีวา ลูกน้องก็สดชื่นกระปรี้
กระเปร่าด้วย

จักรยานล้อโต

กาชะลองตีหน้าเหลอหลา

หล่อนอยู่ ไม่ได้ถูกมฤตยูฉุดคร่าไปเสียก่อน
สายตาที่ทอดมองมาอ่อนโยนจนคนที่ถูกมองชักเขิน ด้วยยังไม่รู้เหตุการณ์ ตอนที่หลับสนิท กาชะลองตีหน้าเหลอหลา
‘มองหน้าฉันทำไมคะ” จักรยานล้อโต
คนที่ถูกถามไม่ตอบ กลับจ้องเอาๆ คนที่ถามเลยต้องพูดแก้เก้อ “หิวนํ้าจังค่ะ”
“รอเดี๋ยวนะ แพรสากำลังไปเอามาให้”
“ตายจริง! นี่ฉันกันนํ้าหมดแล้วหรือคะ” นํ้าเสียงกึ่งแปลกใจ เพราะเท่าที่ จำได้ครั้งหลังสุด นํ้ายังเหลืออยู่เกือบครึ่งเหยือก ศกรสบตาเรียวยาวที่มองมา นั้น พยายามที่จะยังไม่พูดอะไรให้เป็นที่สะเทือนใจคนปวย จักรยาน fat bike
“เปล่าหรอก! เพียงแต่’แามันไม่ค่อยจะสะอาดเท่าไร ผมเลยวานแพรสา ไปเปลี่ยน”
แต่ทันทีที่ได้ฟังคำตอบ กาซะลองกลับตีหน้าแหยย่นจมูกพูดออกมาตรงๆ ราวกับประสาทแห่งการรับรู้ยังจดจำความรู้สืกนั้นได้ดี “มิน่าตอนที่ฉันกิน รสชาติมันเฝือนๆ พิกล”
เหมือนถูกหัวใจจะถูกช็อตอย่างแรง ไม่ใช่ความบังเอิญ ไม่ใช่ความเข้าใจ ผิด มีใครสักคนพยายามวางยาทายาทคุ้มภูคากาซะลอง ศกรถามเร็วปรื๋อ “ใครเป็นคนเอานั้าให้คุณกิน” “ถามแปลก! ฉันก็หยิบกินเองสิคะ นั้าก็อยู่ข้างเตียง” “แล้วมีใครเข้ามาในห้องบ้างมั้ย”
แม้จะยังง่วงงุนจนตัวเองยังแปลกใจ แต่พอเจอคำถามที่ซักละเอียดยิบ อีกทั้งสีหน้าของเขาที่เคร่งเครียดจริงจัง กาซะลองก็รับรูIด้ถึงความผิดปกติ หญิงสาว สบตาคมเข้มของอีกฝ่ายอย่างจริงจัง ถามเสียงเครียด
“มีอะไรคะ”
ความตั้งใจตอนแรกของศกรเป็นอันต้องเลิกล้ม กาซะลองจำต้องรับรู้ทุก สังหี่เกิด หล่อนจะต้องระวังตัวเองโนเมือตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
ศกรบีบมีอที่กุมอยู่เบาๆ กระซิบแผ่วเบาแต่ในนั้าเสียงเข้มนั้นกลับจริงจัง “ตั้งสติให้ดีๆ นะปีบ เมื่อครู่คุณกินยาเกินขนาด ผมสงสัยว่ามันจะถูก
เดินลงจากตัวเรือนด้วยอาการเงื่องหงอยกังวล ด้วยยังไม่รู้ว่าสิงที่ตัดสินใจ บอกศกรกับคุณกาซะลองจะเป็นสิงที่ผิดหรือถูก ในเมื่อเท่าที่รู้ คุณศรานตาก็ คือเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ชองคนทั้งคู่ อีกทั้งยังเป็นถึงลูกสาวชองทนายดำรง ไม่มี 8งใดเลยที่เด็กรับใช้ในเรือนอย่างหล่อนจะเทียบเทียมได้ แล้วอย่างนี้จะมี ใครเล่าเชื่อถือ จักรยาน
แพรสาถอนหายใจเฮือก ดวงหน้าใสที่เคยสวยผุดผ่องผุดผาดดูซีดเซียวจน คนที่เฝ็ามองอยู่นึกเป็นห่วงไม่ได้ ดิสธรรีบเดินลงมาจากตัวเรือนทั้งๆ ที่อาการระบม ยังไม่หายดี เด็กสาวสะดุ้งเฮือกเมื่อมีเสียงทักด้านหลัง ยิ้มแห้งเมื่อเห็นว่าเป็นใคร “มีอะไรให้แพรรับใช้คะคุณดิสธร”
ลูกชายท่านรัฐมนตรียิ้มอ่อนๆ ความนอบน้อมอ่อนหวานของอีกฝ่ายทำให้ ความหวามไหวในหัวใจบังเกิด นึกแ1/ลกโจตัวเองที’บัดนี้ความเร่าร้อนลุ่มหลง ได้เลือนหาย ไม่ได้เกิดเป็นความเสน่หาเหมือนเมื่อก่อน ทว่ามันกลับเป็นความ อบอุ่นซุ่มเย็นชื่นจิตใจอย่างประหลาดยามเมื่อได้สบสายตาคู่นี้
แพรสาอ่านสายตาคู่นั้นออก เด็กสาวหลบตาเมื่อได้ยินเขาถามต่อ
“มีอะไรรึเปล่า ท่าทางแพรเหมือนไม่ค่อยสบายใจ”

จักรยาน

เข้าครัวไปเป็นลูกมือแพรแล้วกัน

“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร วันนี้แพรตื่นเช้าไปหน่อยเลยมึนๆ หัวนิดหน่อยค่ะ” ดวงหน้าใสส่ายน้อยๆ แต่คนที่คอยจับสังเกตอยู่รู้ดีว่าไม่ใช่ แพรสากำลังมีความ ไม่สบายในใจบางอย่าง แต่เมื่อหล่อนยังยืนกรานอย่างนั้น ดิสธรก็จนใจ เขาชวน คุยไปเรื่องอื่น จักรยานล้อโต
“แล้วนี่แพรจะออกไปเยี่ยมคุณปีบเลยรึเปล่า ฉันจะได้ออกไปด้วย”
“ไม่ค่ะ สายหน่อยผู้กองคงจะมาส่งคุณปีบ เพราะวันนี้คุณปีบจะได้ออก จากโรงพยาบาล นี่ทำความสะอาดบนเรือนเสร็จแล้ว แพรว่าจะเข้าครัวไปทำ อาหารต้อนรับคุณปีบน่ะค่ะ คุณดิสธรอยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ยคะ แพรจะ ได้ทำเผื่อ เห็นทานแต่ข้าวต้มมาหลายมื้อแล้ว”
ร่างผอมกะหร่องยิ้มเขิน ลูกชายท่านรัฐมนตรีเอื้อมมือลูบบริเวณคางและ แก้มที่ยังบวมเจ่อเห็นรอยเขียวชํ้าชัดเจน  ไม่ดีกว่า แพรทำอะไรให้คุณปีบ ฉันก็กินอย่างนั้นล่ะ เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันขอเข้าครัวไปเป็นลูกมือแพรแล้วกัน นอนมากๆ ชักเซ็ง” จักรยาน fat bike
“ในครัวทั้งร้อนทั้งเหม็นนะคะ” เด็กสาวรีบร้องบอก เขาเป็นถึงหนุ่มชาวกรุง ลูกชายห่านรัฐมนตรี จะทนกับสิ”งเหล่านั้{ด้รึ แต่ดิสธรกลับยิ้มกริ่ม
“เรื่องจิ๊บจ๊อย อยู่ที่บ้านฉันก็เข้าครัวออกปอยไป พูดแล้วจะหาว่าคุย ฉันน่ะ เป็นพ่อครัวหัวปาได้นะ”
แพรสาอมยิ้ม รู้ทั้งรู้ว่าชายหนุ่มคนที่ยืนอยู่ตรงหน้ากำลังโกหกทั้งเพ แต่พอเห็นท่าทางของเขาที่เอาจริงเอาจัง เด็กสาวจึงเดินนำไปยังเรือนครัวที่ตั้ง เยื้องไปบริเวณด้านหลัง โดยมีป้าคำสร้อยที่เพิ่งเดินลงมาจากตัวเรือนมองตาม อย่างสงลัยระคนหนักใจ
แพรลาคิดจะหำอะ,!ร รู้ทั้งรู้ว่าคุณดิสธรเป็นคนรักของคุณปีบยังจะพา ตัวเองไปสนิทสนมอีก แล้วไหนจะมีนายแพทย์สฤษด์คุณที่เ^าตามวนเวียน จนเป็นเรื่องราวใหญ่โต ความวัวไม่ทันจะหายยังจะเอาความควายเข้ามาแทรก จักรยาน
แอบตามไปดูแล้วป้าคำสร้อยก็ยิ่งหนักใจเมื่อเห็นภาพที่อยู่เบื้องหน้า แพรสาทำอาหารโดยมืดิสธรเป็นลูกมืออย่างเต็มใจ ความที่เห็นกันมาตั้งแต่อ้อน แต่ออก ไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ ผู้สูงวัยกว่าจึงพอจะดูออกอยู่บ้างว่าเด็กสาว หน้าใสลูกสาวนายคำปืนพึงใจลูกชายท่านรัฐมนตรีอยู่ไม่น้อย
รีบบอกก่อนที่ระเบิดลูกใหญ่จะลงมาอีก หากเปรียบเทียบกัน คุณพันธุรพี ใจร้อนกว่าคุณปรียางค์ศรีเยอะ ผู้เป็นน้องคงไม่ฟังต่อหรอกว่าผู้กองศกรมีบ้านพัก ติดเชิงเขาที่คุณปรียางค์ศรีแบ่งขายให้ตั้งแต่สมัยที่ผู้กองทำงานใหม่ๆ นัยว่า เป็นของขวัญสำหรับผู้พิทักษ์ลันติราษฎร์คนใหม่ ที่นอกจากจะคอยดูแลประชาชน ทั่วไปแล้วยังคอยแวะเวียนมาดูแลคุ้มภูคากาซะลองมิได้ขาด
คุณพันธุรพีได้แต่ทำปากขมุบขมิบ เรืองบางเรื่องคำสร้อยดูเหมือนจะรู้ มากกว่าหล่อนเสียด้วยซํ้า เคืองไปถึงพี่สาวที่เห็นคนนอกดีกว่าน้องในไล้ ยาย แก่นิ่มีดีตรงไหน ก็แค่อยู่นาน
หงุดหงิดงุ่นง่านอยู่ในใจ แม่หลานสาวก็ช่างทำตัวไม่เหมาะสม เที่ยววิ่ง เร่ไปพักค้างอ้างแรมบ้านผู้ชายทั้งๆ ที่บ้านตัวก็มี นี่อยู่กรุงเทพๆ ก็คงทำตัวซะ เปรอะ รวมทั้งข่าวกับนายดิสธรก็คงจะเป็นจริงด้วย ไม่อย่างนั้นกาซะลองก็น่าจะ ให้ไอ้หน้าปลาจวดนั่นกลับบ้านไป ไม่ใช่ปล่อยให้มันลอยนวลหลังจากตะบัน หน้าสฤษด์คุณชะเละ
นึกสมนํ้าหน้าไปถึงพี่สาวที่เอ็นดูหลานสาวจนเกินเหตุ แล้วเป็นยังIง สัน บุญยายไม่เท่าไหร่มันก็ทำงามหน้าเข้าให้แล้ว
โบกมือไล่ป้าคำสร้อยให้ไปไกลห่างก่อนเดินขึ้นบนตัวเรือน ภาพถ่ายประมุข ของคุ้มที่ติดอยู่ฝาผนังดูเด่น ดวงตาของคุณปรียางค์ศรีดูโศกเศร้าอย่างที่ไม่เคย เห็นมาก่อน
เขม้นมองอีกครั้ง แต่เพียงชั่วครู่ทุกอย่างก็คืนกลับสู่ปกติ ภาพนั้นก็ยัง คงเป็นภาพเดิม ดวงตาของผู้เป็นพี่สาวดูแจ่มกระจ่างเคียงข้างกับกาซะลองในวัน รับปริญญา เหมือนขนจะลุกเกรียว
เหตุโดเธอจึงเห็นภาพของพี’สาวดูโศกเศร้าถึงเพียงนั้น
ตรงดิ่งไปที่ห้องพักซึ่งใช้เป็นที่พักพิงยามเมื่อมาเยือนที่คุ้ม ร้สืกง่วงงุนจน ต้องทรุดตัวลงนอนนิ่งนาน ในภวังค์คล้ายครึ่งหลับครึ่งตื่น คุณพันธุรพีเห็น พี่สาวมายืนอยู่ข้างๆ ร่างผอมเกร็งสันสะท้านเมื่อยื่นมือมาสัมผัสร่างของเธอที่นอน นิ่งไม่ไหวติง
“รพี ดูแลดอกปีบด้วย พันธุรพ”
“คุณพี่ ดิฉันขอโทษ ดิฉัน…”

จักรยาน fat bike

พอเห็นคุณพันธุรพีก้าว ลงมาจากรถก็หน้าแหย

ลอบถอนหายใจออกมาอีกครา อะไรจะเกิดมันก็คงต้องเกิด ไป?Iนลิขิต ชะตาก็คงไม่ได้ ดีเ3ยอีกที่แพรสาจะได้ดิบได้ดีเป็นถึงลูกสะใภ้ทำนรัฐมนตรี แต่หากไม่ใช่ คุณดิสธรไม่ได้จริงจังอะไรกับมัน ก็คงจะถือว่า ‘กรรม’ กรรมที่ ใครก็หลีกหนีไม่พ้นแม้แต่ตัวหส่อนเอง
เดินเลี่ยงออกมาเตรียมของที่จะใช้ตักบาตรในวันต่อไป กิจวัตรประจำวัน ที่ทำอยู่เสมอไม่ได้ขาด ง่วนอยู่อย่างนั้นจวบจนได้ยินเสียงรถแล่นมาจอดที่ด้าน หน้าคุ้มจึงเงยหน้าขึ้นมอง รอยยิ้มผุดขึ้นที่ริมฝืปากอย่างดีใจ แม่บ้านเก่าแก่ประจำ คุ้มรีบกระวีกระวาดออกมาเพราะคิดว่าเป็นนายสาว แต่พอเห็นคุณพันธุรพีก้าว ลงมาจากรถก็หน้าแหย จักรยานล้อโต
“แม่ปีบกลับมารึยัง”
นั่นเป็นประโยคแรกที่น้องสาวคุณปรียางค์ศรีเอ่ยถาม กิริยาอาการที่เชิดหน้า ไม่มองแม้แต่ใบหน้าคนที่ถูกถามก่อให้เกิดอาการพิพักพิพ่วนกับอีกฝ่ายหนึ่งอย่าง ช่วยไม่ได้ แปลกแท้ๆ คนที่เคยใจดีใจเย็นจู่ๆ ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนราวกับ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ป้าคำสร้อยตอบนอบน้อมติดจะลนลานเสียด้วยซํ้า
“ยังค่ะ”
“อ้าว! ก็ไหนบอกว่าจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้”
“ใช่ค่ะ ออกจากโรงพยาบาลวันนี้แต่ยังไม่กลับบ้านตอนนี้”
‘นี่แกย้อนฉัน!”
“เปล่าค่ะ เพียงแต่ผู้กองศกรโทรมาบอกว่าจะพาคุณปีบไปพักฟืนที่บ้าน คุณปีบยังไม่ค่อยแข็งแรงค่ะ” จักรยาน fat bike
ป้าคำสร้อยเสียงชักอ่อย คนรวยนี่ไม่รู้จะอะไรกันนักหนา ทุกอย่างเป็น ต้องได้ดั่งใจ ทำอย่างกับมนุษย์คนอื่นไร้4งหัวจิตหัวใจ นี่พอรู้ว่าคุณปีบไปกับผู้กอง บ้านคงจะแตก
คาดไม่ผิดเมื่อดวงตาขุ่นขึ้งเบิกกว้างอย่างโกรธจัด ปากสีแดงม่วงที่ระบาย ไว้อย่างสวยงามเหยียดออกแล้วตะเบ็งเสียงลั่นเหมือนจะเยาะ
“อ้อ! เดี๋ยวนี้หลานฉันก้าวหน้าถึงขนาดไปพักค้างอ้างแรมกับผู้ชายแล้วเรอะ บ้านช่องตัวเองไม’มีรึไง”
“มีค่ะ แต่บ้านผู้กองก็ยังมีอีกหลัง ไม่ใช่อย่างที่คุณท่านคิดหรอกค่ะ”
“ดูแลดอกปีบด้วย เธอต้องดูแลกาซะลอง!”
นี้าเสียงเข้มเฉียบขาด ความเด็ดขาดชนิดเดียวที่คุณปรียางค์ศ1ไม่ใคร่ได้ใช้ บ่อยนัก รู้สืกเหมือนนํ้าอุ่นๆ ไหลมาจากหางตา คุณพันธุรพีสะดุ้งเฮือก อุ่นวาบ ที่ช่วงแขนเหมือนมีใครมาสัมผัส ขนลุกเกรียวเมื่อความรู้สีกบอกกับตัวเองว่า เมื่อครู่หล่อนไม่ได้8น คุณปรียางค์ครีมาที่นี่จริงๆ
หันรีหันขวางด้วยความหวาดหวั่น แม้จะตายไปแล้วแต่พี่สาวก็ยังผูกพัน รักใคร่กับกาซะลอง ขนาดมาปรากฏตัวให้เห็นเป็นวิญญาณ วูบนั้นที่คุณพันธุรพี บอกตัวเองได้ว่า คุณ11รียางค์ศรีจะไม่มีวันปล่อยให[ครมาทำร้ายกาชะลอง! จักรยาน
กาซะลองทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ไมืไผ่ตัวเล็กซึ่งถูกทาทับด้วยสีขาว หล่อนนั่ง มองสีนวลๆ ของไม้ไผ่ที่ยังแพลมออกมาให้เห็นเป็นระยะ แม้จะไม่เนยบมาก แตกเห็นความตั้งใจของคนทำ มันเพิ่งเสร็จก่อนหน้าที่หล่อนจะมานั่งเพียงไม่กี่ ชัวโมงเท่านันเอง ยินเสียงตอกไม้โปักเป็กๆ ดังลั่นมาจากหลังบ้านเหมือนจะ เป็นการช่วยยาว่านาทีนี้หล่อนไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในโลก
หญิงสาวสาวเท้าเดินไปดู ยังไม่มืดแต่สายลมที่ย่างเข้าส่ฤดูหนาวก็พัดพา ความเย็นมาให้สัมผัส หล่อนห่อไหล่แต่คนที่กำลังตอกไม้โป้กเป็กกลับโบกมือ ไล่เหงึ่อที่เกาะพราวอยู่ตามใบหน้า
เขายิ้มยิงฟันขาวเมื่อเห็นหน้าหล่อน
“จวนเสร็จแล้วคุณ เหลือขาเตียงอีกนิดเดียว’
“ฉันก็บอกคุณแล้วไง ว่าฉันนอนพื้นก็ได้ ไม่เห็นต้องยุ่งยาก”
“ได้ไงคุณ!” ศกรร้องลั่น เขามองตามร่างบอบบางที่ทรุดตัวนั่งยองๆ อยู่กับ พื้นหญ้า หน้าเล็กๆ ยังผอมซูบเชียวอยู่ ริ้วรอยแห่งความหมองหม่นยังฉายอยู่ทั่ว ใบหน้า การอยู่[รงพยาบาลนานวันเหมือนจะไม่’ได้ช่วยให้หล่อนหายดี
“คนปวยต้องทำร่างกายให้อบอุ่น ตกกลางคืนที่นี่ทั้งหนาวทั้งเย็นขนาดคน ธรรมดาจะนอนทีต้องขนทั้งฟูกทั้งผ้าห่ม ไม่มืใครเขานอนพื้นกันหรอก มันหนาว จนปวดกระดูก”
“อ้าว! แล้วเตียงไมไผ่ที่ฉันเห็นวางอยู่ในห้องล่ะ” กาซะลองรีบถาม นัยน์ตา คมจับที่ใบหน้าคร้ามซึ่งกำลังยืนทำหน้าอิหลักอิเหลึ่อ

จักรยานล้อโต

“แม่บอกแกแล้วใช่มั้ยว่าให้หยุดๆ เรื่องผู้หญิงบ้าบออะไรนั่น แล้วนี่เป็นไง ยัยปีบเฉดหัวออกมาจากบ้านแล้ว ต่อไปแกจะทำยังไงฉันอยากรู้”
คุณหญิงยุพาพักตร์โวยวายลั่นมาตามสาย ผู้เป็นลูกชายถอนใจออกมา เฮือกใหญ่ ก็ว่าจะไม่ใทรหาแม่แล้วเชียวเพราะคงไม่แคล้วต้องถูกก่นด่า แต่จะ ทำอย่างไรได้ เขาเองไม่เคยคิดเองทำเอง โดยเฉพาะเรื่องราวต่างๆ ที่ต้องมี แผนการ เพราะฉะนั้นจึงต้องพึ่งพาอา3ยแม่
“แม่ฮะ…” เขาลากเสียงยาว “ที่ผมโทรมาหาก็เพราะต้องการขอคำแนะนำ คำปรึกษาว่าจะทำยังไงถึงจะได้อยู่ที่คุ้มภูคากาซะลองต่อ ไม่ใช่ให้แม่มาด่าผม ฉอดๆๆ อย่างนี้”
“อ๋อ นี่เรียกว่าด่าเหรอไอ้ลูกเวร ทีแกไปทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงอะไรไว้ล่ะ ใครจะรับผิดชอบ แถมผู้หญิงคนนั้นยังเป็นแค่ลูกจ้างในบ้าน ยัยปีบคงจะอภัย ให้แกหรอก กลับมากรุงเทพฯ เดี๋ยวนี้เลย แค่นี้ฉันก็ขายหน้าจะแย่อยู่แล้ว”
ผู้เป็นลูกชายหน้าเครียด เขาเองยังไม่อยากกลับกรุงเทพฯ เท่าไหร่ นึกถึง หน้าสวยใสของเด็กแพรสาก็ให้นึกเสียดายขนมหวานชิ้นงาม หากเขายังไม่ได้ ลิ้มรสก็คงกระไรอยู่
“ใคร” คุณปรียางค์ศรีกวาดสายตามองไปรอบคุ้ม ไม่มีสิงใดผิดปกติ ประมุขของคุ้มถามเสียงเข้มกับคนในบ้าน “มีใครเห็นคนแปลกหน้าเข้ามาใน บ้านเรามั้ย”
คำตอบคือความเงียบ บรรดาคนงานต่างหน้าแหย นายเห็นแต่ตัวไม่เห็น มันคือความบกพร่อง ท่านอาจจะว่าได้ว่าดูแลบ้านกันยังไง จักรยาน fat bike
กาซะลองหน้าเสีย หลายครั้งแล้วในสิงที่เห็นแต่กลับไม่เคยมีใครได้เห็น ด้วย คุณปรียางค์ศรีเอื้อมมือมากุมมือหลานสาวเป็นเชิงปลอบใจ เพราะท่านเข้าใจ ผู้เป็นหลานดี
“เอาล่ะ ยังไงก็ช่วยกันดูแลบ้านให้ดีหน่อยนะ เกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยเหลือ กันทัน”
สั่งแค่นั้น แต่ทุกคนที่ยืนอยู่ก็เข้าใจได้ตรงกันว่าครั้งนี้ท่านจริงจัง เพราะ
ตั้งแต่นายคำป้นตายไป หลายอย่างก็ชักไม่ชอบมาพากล
ความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นพร้อมกับกลิ่นดอกกาชะลอง
ไม่มีใครสังเกตว่าในขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นวายหวาดหวั่น แพรสากลับยีน
ใจสั่นหน้าซีดไม’กล้าสบตาผู้คน เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าคนคนนั้นคือนายแพทย์
สฤษด์คุณ
เมื่อครู่เขาเพิ่งย่องมาหาหล่อน และก็เหมือนครั้งก่อนที่นายแพทย์หนุ่มเต็ม ไปด้วยความเร่าร้อนลุ่มหลง สายตาเขามาดมั่นที่จะได้ในตัวหล่อน
แม้จะเดือดร้อนใจแต่ก็ปริปากบอกใครไม่ได้ เรื่องนี้มันน่าละอาย และที่ สำคัญพูดไปจะมีใครเชื่อ ในเมื่อเขาเป็นใครและหล่อนเป็นใคร จักรยานล้อใหญ่
จำต้องยืนเงียบอยู่อย่างนั้น ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แต่ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อได้ยินเสียงคุณปรียางค์ศรี
“เป็นอะไรไป ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว” พ่านเอ็ด เด็กสาวหน้าซีดกลัวจะ ถูกจับได้เพราะสายตาท่านเฉียบคมอย่างกับเหยี่ยว เสียงเข้มสั่งต่อ “จัดยาไป ให้ฉันด้วย ฉันจะกลับไปรอที่ห้อง”
เด็กสาวอึกอัก ใจหายวาบ ยา…ยาชองคุณปรียางค์ศรีหมดไ11ตั้งแต่ เมื่อวาน โดยทีหล่อนลืมบอกเพราะมัวแต่ยุ่งเรืองของตัวเอง หน้าที่เสียอยู่แล้ว ยิ่งเสียหนักจนกาซะลองสังเกตเห็น

จักรยานล้อโต

แพรสาก็แค’เด็กโนบ้าน
ลูกชายท่านรัฐมนตรีเบ้ปาก บอกออกมาคำเดียวสั้นๆ “งั้นผมถีอโอก-‘ส ลาคุณที่นี่เลยแล้วกัน”
กาซะลองมองร่างสูงผอมที่เดินไหล่ตั้งออกไปภายนอกห้องรับแขก หญิงสาว ถอนหายใจอย่างโล่งอก บทจะง่ายไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะง่ายถึงเพียงนี้ แต่ พอเห็นหน้าตาท่าทางบึ้งตึงของอีกฝ่ายกลับไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก ดิสธรเป็น ชายหนุ่มที่ค่อนข้างเอาแต่ใจตัว ไม่มีอะไรที่ฝ่ายนั้นอยากได้แล้วไม่เคยได้ นึก เป็นห่วงไปถีงแพรสา ไม่รู้ต่อจากนี้จะกลับมาเอาคืนอะไรอีกหรือเปล่า จักรยานล้อโต
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความหนักหน่วงใจอย่างที่สุด หากเป็นอย่างที่คิด ถึงตอนนั้นแล้วจะช่วยเหลือกันอย่างไร
พลันหน้าคมเข้มของผู้กองหนุ่มก็ผุดขึ้นในห้วงคิด…ความหวานชื่นอ่อนหวาน ที่ปรากฏให้เห็นทำให้เผลอย่นจมูกไม’ได้ นึกสมเพชตัวเอง ก็ไม่รู้จะมานั่งห่วง นั่งปวดหัวกับเด็กแพรสาทำไม ในเมื่อหล่อนก็มีคนดูแลเป็นถึงผู้กอง
ร่างระหงเดินออกไปยังริมระเบียง แม้ใจจะบอกว่าอย่าไปสนใจคนคนนั้น อีก แต่กั๊อดไม่ได้ที่จะทอดสายตาไปยังซุ้มรับรองแขก
ท่ามกลางแสงจันทร์กระจ่างปรากฏเพียงเงาสลัวของพุ่มดอกไม้ไร้ซึ่งใครสัก คนที่จะอยู่ที่นั่น ยืนมองเหม่อเกิดความใจหายอย่างบอกไม่ถูก ที่เขาบอกว่าจะรอ สุดท้ายก็เป็นเพียงแค่คำพูด
เดินทอดน่องไปเรื่อยๆ แต่พลันหยุดชะงัก เมื่อเห็นเงาวูบวาบของใครลักคน วิ่งผ่านจากซุ้มรับรองเข้าไปยังตัวเรือน รวดเร็วเหมือนฟ้าแลบจนคล้ายกับว่าตาฝาด แต่จากเสียงฝืเท้าที่กระทบกับพื้นดินทำให้กาซะลองแน่ชัดว่าสิงที่เห็นไม่ได้ตาฝาด จักรยาน fat bike
รวดเร็วเท่าความคิด หญิงสาววิ่งตามติดเงานั้นไปทันที แต่ทันทีที่ก้าวเข้า ส่ตัวเรือน เงานั้นก็หายไป ทุกอย่างเงียบสงบ ได้ยินเพียงเสียงหรีดหริ่งเรไร ยามคํ่าคืน กลิ่นดอกปีบกรุ่นกำจายรุนแรงจนเจ้าตัวอดขนลุกไม่ได้
อาถรรพ์ดอกปีบ…ไม่ใช่ มันไม่ใช่เรื่องจริง
ตะโกนโหวกเหวกลั่นบ้าน จนคนที่อาสัยอยู่วิ่งหน้าตาตื่นออกมา
“มีอะไรหรือปีบ”
“ปีบเห็นคนเข้ามาในบ้านเราค่ะคุณยาย”
ศกรชะงักไปในทันทีที่ได้ยิน แพรสาน่ะหรีอถูกนายแพทย์สฤษด์คุณ ลวนลาม ไม่น่าเชื่อ แต่พอมองจ้องลึกไปในดวงตาเด็กสาว ชายหนุ่มก็เห็นแต่ ความเจ็บปวดหมองหมาง ไม่มีสิงใดเลยที่จะบ่งบอกว่าหล่อนโกหก
แพรสาประสานสายตากับเขา อยากให้เขารับรู้ถึงความเจ็บปวดที่หล่อน ซุกซ่อนไว้อย่างที่สุด ก่อนจะโผซบลงกับอกเขา รํ่าไห้ออกมาสุดแรง “แล้ว…แล้ว ก็แฟนคุณปีบอีก…คุณดิสธร…เขา…พยายามจะ…”
“พอ ไม่ต้องพูดแล้วแพร”
แพรสาเงยหน้าขึ้นสบตาชายหนุ่ม อบอุ่นหัวใจอย่างประหลาด เด็กสาว บอกเขาทั้งนํ้าตา
“ผู้กองต้องช่วยแพร…นะคะ”
รู้สืกถึงความสั่นสะท้านจากแรงสะอื้นอย่างเสียขวัญ ศกรอดไม่ได้ที่จะ เอื้อมมือขึ้นลูบเรือนผมนุ่มสลวยนั้นอย่างปลุกปลอบ ทั้งๆ ที่เพิ่งสูญเสียบิดา บังเกิดเกล้า แต่เด็กสาวกลับต้องเผชิญชะตากรรมอันเลวร้ายอย่างนี้ เวรกรรมอันใด หนอถึงได้โหมกระหนํ่ามาที่แพรสาอย่างหนักหน่วงเช่นนี้
กาชะลองเมินภาพที่เห็น กิริยาอันใกล้ชิดของคนทั้งคู่ล้วนบ่งบอกถึง ความสัมพันธ์ รู้สืกเจ็บหนึบขึ้นมาที่หัวใจ ด้วยไม่คาดฝืนว่าแพรสาจะเป็นหนึ่ง ในผู้ที่ตกอยู่ในห้วงเสน่ห์ของคนอย่างนายศกร
นี่ขนาดมาเยือนกึงคุ้มภูคากาซะลองยังกล้าแสดงขนาดนี้ถ้าลับหลังแล้วจะ
ขนาดโหน แพรสาก็ช่างกระ,1ร ไม่รู้จักสงวนท่าทีบ้างเลย สะบัดหน้าหันหลังกลับ
โดยที่ผู้หมวดหนุ่มไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่าคุณปรียางค์ศรีส่งหลานสาวมาเป็นตัวแทน กลับไปนั่งหน้ามุ่ยที่เรือนซุ้มกาซะลองด้านหลังคุ้ม กลีบดอกปีบขาวสว่างไม่ จักรยาน
อาจทำให้จิตใจที่ห่อเหี่ยวสดชื่นขึ้นได้เลย จนคุณปรียางค์ศรีสังเกตเห็น ประมุข
ของคุ้มพอจะรู้แกว นี่นายศกคงทำอะไรให้แม่หลานสาวไม่พอใจเข้าใหอก
หนุ่มสาวยุคนี้ก็แปลก ช่างทำอะไรขัดกับใจเสียจริง
เอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วง แต่แม่หลานสาวกลับตัดบท
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ผู้กองของคุณยายคงหาข้ออ้างมาที่คุ้มของเราเท่านั้น
เอง” ยันกายขึ้นจากเก้าอี้หวายที่นั่งอยู่ แต่พอเห็นสีหน้าผู้เป็นยายที่จ้องมอง
อย่างคาดคั้น กาซะลองก็ต้องทรุดตัวลงนั่งที่เดิม

จักรยาน fat bike

กันว่าจะทำบุญคุ้ม หรือถ้ามันยังไม่ดีขึ้น เราหาคนมาป้ดรังควานก็ได้”
คุณปรียางค์ศรีนิ่ง เข้าใจถึงความหวังดี ปรารถนาดีของผู้เป็นหลาน
แต่จะบอกได้หรือว่าสิงที่เป็นกังวลอยู่นั้น การทำบุญคุ้มหรือการปิดเปารังควาน มันใชไม่ได้ผล
กิเลส ตัณหา ความโลภในจิตใจมนุษย์…ไม่สามารถดับได้ด้วยอะไร-ทั้งปวง นอกจากจิตใจที่สงบของผู้เป็นเจ้าของเอง จักรยานล้อโต
กาซะลองหน้าเจื่อนเมื่อเห็นสีหน้าผู้เป็นยาย นึกละอายใจตัวเองขึ้นมาทันที
ไม่น่าเชื่อว่าหล่อนจะเป็นไปได้ขนาดนี้ เชื่อในเวทมน®ๆ1สยคาส®ทั้งทิ่อยู่ในยุค ดิจิตอล…อยากโทษตัวเอง…สง8ยจะเล่นละ®รเกี่ยวกับผีๆ งๆ มาก{ป!
“ยายอยากให้ปีบมีคนมาดูแล” คุณปรียางค์ศรีเอ่ยขึ้น กาซะลองสบตาผู้ เป็นยายนัยน์ตาเป็นประกาย พยายามทาให้เป็นเรื่องตลก แม้ในใจจะรู้ดีว่ามัน ไม’ใช่
“ปีบดูแลตัวเองได้ค่ะ” จักรยาน fat bike
“ปีบก็รู้ ว่าจริงๆ แล้วยายหมายความว่ายังไง” กาซะลองก้มหน้าเหมือนเด็กถูกจับผิด เฉไฉจนได้เรื่อง 1 “ยายพูดจริงๆ นะ” คุณปรียางค์ศรีเน้นยาอีกที “ยายอยากให้หนูแต่งงาน
เป็นฝืงเป็นฝา…กับใครสักคนที่หนูรักเขา และเขารักหนู”
“ก็ใครล่ะคะ” กาซะลองลากเสียงยาวทั้งๆ ที่ใจเต้นตุบๆ คุณปรียางค์ศรี
อมยิ้มนิดๆ
แม่คุณเอ๊ย! ตั้งแต่เด็กจนโตนิ8ยไม่เคยเปลี่ยน หญิงชราเชยคางเรียว
แหลมมองไปที่ดวงตาคู่สวย บอกเสียงนุ่ม แต่คนฟังหัวใจกลับเต้นโครมคราม
“นายศกไง!”
แต่นายแพทย์หนุ่มรีบชิงพูดขึ้นก่อน จักรยาน
“แต่อีกคนน้าว่าน่าจะเชิญมาหน่อยนะ เพราะเขาก็แวะเวียนมาเยี่ยมเยียน คุณป้าปอยๆ”
“ใครคะ” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างนึกฉงน เพราะปกติคุณปรียางค์ศรี ไม่ได้ให้ความสนิทสนมกับใครง่ายๆ นัก
“นายศกไง” ตอบเรียบๆ แต่คนฟังถึงกับหน้าตึง เอาอีกแล้ว นายศกร เข้ามาเกี่ยวอีกแล้ว
“เพื่อนของเราคนนี้ดีนะ ใชIด้ทีเดียว ตอนที่น้าไม่อยู่ก็มีนายศกนี่แหละ ที่แวะเวียนมาตรวจดูที่นี่ให้ ไม่รู้จะทำคะแนนอะไร”
รู้สีกราวเลือดจะแล่นขึ้นบนใบหน้า กาซะลองหน้าร้อนผ่าว รู้ว่าผู้เป็นน้า กำลังจะแหย่ ใครบ้างจะไม่รู้ว่าสมัยเรียนอยู่มัธยม เด็กชายศกรกับเด็กหญิง กาซะลองถูกจับคู่กันตลอดด้วยเหตุผลว่าทะเลาะกันบ่อยเหลือเกิน เป็นคู่กัดกัน จนน่าแปลกใจ
สฤษด์คุณมองหน้าแดงเรื่อของหลานสาวอย่างนึกขำ เล่นละครมาก็หลาย บทบาท แต่พอมาเป็นละครชีวิตของตัวเองกลับแสดงไม่สนิท
“วันนี้น้ากลับก่อนดีกว่า เราเองก็จะได้พักผ่อน ยังไม่หายดีไม่ใช่หรือ คุณแม่ ว่าไงครับ” นายแพทย์สฤษด์คุณหันมาถามผู้เป็นมารดา คุณพันธุรพีพยักหน้า เอื้อมมือมาตบไหล่หลานสาวเบาๆ
“ก็ดีเหมือนกัน ดูแลตัวเองด้วยนะลูก ฝากบอกพี่ใหญ่ด้วยว่าว่างๆ เดี๋ยว ยายจะแวะมาหา”
“ดอกปีบ” ผู้เป็นน้าเอ่ยขึ้นบ้าง “และอีกอย่างที่น้ายังไม่ได้บอก คุณป้า เป็นโรคหัวใจ ต้องระวังอย่าให้มีอะไรมากระทบกระเทือนใจคุณป้านะ”
เป็นเรืองโหม’ที’โม่เคยรู้มาก่อน คุณปรียางค์ศรีเป็นIรคหัวใจ!
กาซะลองเดินตามไปส่งญาติผู้ใหญ่ทั้งคู่แต่ก็ด้วยจิตใจที่เลื่อนลอยเต็มที หญิงสาวรอจนรถสีเทาควันบุหรี่ลับหายไปจากสายตาจึงเดินตรงไปที่ห้องของคุณ ปรียางค์ศรี ผู้เป็นยายตื่นนอนพอดีเมื่อหญิงสาวเดินเข้าไป
หญิงชราเอ่ยถามเมื่อหลานสาวเดินมาทรุดตัวลงนั่งข้างๆ “แม่เล็กกับนาย ฤษด์กลับไปแล้วหรือลูก”

จักรยาน

ยิ้มกริ่มเมื่อเห็นท่าทางของผู้บังคับบัญชา

เอ๊ะ นั่นคุณยายก็มาด้วยนี่ครับผู้กอง” เรียกอย่างสนิมสนมด้วยความที่ แวะเวียนไปเยี่ยมเยียนคุณปรียางค์ศรีกับผู้กองอยู่บ่อยๆ
ได้ผล เพียงได้ยินคำว่า ‘คุณยาย1 ชายหนุ่มก็หันขวับ ผู้ใต้บังคับบัญชา แอบเมินหน้าหนีไปทางอื่น ยิ้มกริ่มเมื่อเห็นท่าทางของผู้บังคับบัญชา จักรยานล้อโต
ผู้กองเอ๊ย ฟอร์มเยอะเสียจริง อยากมองเขาให้เต็มตาก็ไม่กล้ามอง
ศกรกวาดสายตามองหาคุณปรียางค์ศรี แต่กลับพบดวงตาคมที่หันมามอง
พอดี
หล่อนชักสีหน้านิดนึงเมื่อเห็นเขา ก็เหมือนเดิม ก่อนจะหันไปพูดคุยกับ ประชาชนที่ห้อมล้อมต่อ
ผู้กองร่างใหญ่เก้อนิดๆ เมื่อเห็นท่าทางของหล่อน ไม่รู้เมึ่อไหร่จะหายงอน ยิ่งเห็นท่าทางของผู้ใต้บังคับบัญชาก็ยิ่งเก้อ จักรยาน fat bike
อวะ ไอ้พวกนี้ รู้ทันเสียจริง
“ไหนวะจ่าเมฆ คุณยายน่ะ” แกล้งตะเบ็งเสียงแก้เก้อ จ่าเมฆหัวเราะแหะๆ “อ้าว ไม่ได้มาด้วยเหรอครับ ตะกี้ยังเห็นแวบๆ” จ่าเมฆเกาหัวแกรกๆ
แกล้งชะเง้อชะแง้คอมองหาคุณปรียางค์ศรีพร้อมกับแก้ตัวอุบอิบ “สงสัยตะกี้ผม
จะตาฝาดน่ะครับ” จักรยาน
ตอบเสร็จก็ต้องกระโดดตัวลอยหวือหลบหลังมือที่เหวี่ยงมาโดยเร็วตรงหน้า ศกรทำหน้าเคร่ง อาการหัวเราะคิกของลูกน้องจึงหยุดไปโดยปริยาย เปลี่ยนเป็น เจี๋ยมเจี้ยมแทน
กาซะลองแอบชำเลืองมองร่างสูงใหญ่ หญิงสาวเผลอย่นจมูกอย่าง หมั่นไส้เต็มแก่เมื่อเห็นท่าทางของผู้กองตรงหน้า เก๊ก ขี้เต๊ะเป็นบ้า คุณยายนะ คุณยาย คิดยังไงถึงมาว่าเราแอบรักอีตานิ่ ปฏิเสธตัวเองแต่แก้มกลับร้อนผ่าว ราวกับมีคนมาล่วงรู้ความในใจ ไม่ใช่ ไม่เห็นจะเป็นเรื่องจริงเลย ใครที่ไหนจะ แอบหลงรักอีตาบ้านี่ หล่อก็ไม่หล่อ รวยก็ไม่รวย นิสัยก็ไม่เห็นจะดี ที่สำคัญ ที่สุด…ขี้เก๊กมากๆ ด้วย

จักรยาน fat bike

ต้องรีมมาทำคะแนนอีกเป็นแน่

ต้องรีมมาทำคะแนนอีกเป็นแน่
ใบหน้าคร้ามซ่อนยิ้ม พอจะเดาความคิดของอีกฝ่ายออก พลันก็ต้อง สะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงเรียก
“ผู้กองครับ คราวนี้คุณยายจริงๆ ด้วยครับ” จ่าเมฆบอกเสียงตื่นเต้น
ยิ้มหน้าแฉล้ม โชคช่วยจริงๆ ตู ที่คุณยาย1Iรียางค์ศรีมาด้วย ไม่งั้นคงต้องถูก มองว่าเป็นเด็กเลี้ยงแกะ ดีไม่ดีอาจถูกลดขั้นได้ง่ายๆ จักรยานล้อโต
ร่างสูงใหญ่หันมามองผู้ใต้บังคับบัญชา หัวเราะหึๆ ‘เป็นเรี}ง…ชืนพูดอีก ทีเป็นโดนเตะ!
จ่า เมฆเผ่นแผล็วเป็นนกกระเต็นตาม ผู้บังคับบัญชาไปยืนหน้าปืนจิ้ม
ปืนเจ่ออยู่ตรงหน้าประมุขของคุ้มภูคากาซะลอง
กาซะลองหน้ามุ่ย เห็นมั้,ย เป็นอย่างที่คิดไวIม่มีผิด สาระแนมาอีกจนได้ ชายหนุ่มยกมือไหว้หญิงชราอย่างนอบน้อม “คุณยายสบายดีหรือครับ” “สบายดีจ้ะพ่อศก ทำไมหมู่นี้หายหน้าไป ตั้งแต่มาส่งแม่ปีบก็ไม่มาให้ยาย
เห็นหน้าเลย” จักรยาน fat bike
ศกรยิ้ม ชายหนุ่มปรายตาไปมองหน้าเรียวเล็กที่ยืนมองเขม็ง “พอดีช่วงนี้ เห็นคุณยายมีแขกมาอยู่ด้วย ผมเลยเกรงว่าจะเป็นการรบกวน”
ตาคมๆ ค้อนขวับตรงๆ เพราะรู้ว่าโดนประชดเข้าเต็มๆ แต่ไม่กล้าแสดง ฤทธิ้เดชมากกว่านี้เพราะอยู่ต่อหน้าคุณยาย ชืนหล่อนแสดงอะไรไป นายศกร คงได้คะแนนตามเคย
ยิ่งขัดใจเมื่อเห็นคุณยายหัวเราะร่วนทำไม่รู้ไม่ชี้ เอื้อมมือไปจับปาแข็งแรง อย่างเอ็นดู “แขกเขิกอะไรกัน นี่ดอกปีบ เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของเราไงนายศก ตอนเด็กๆ ยายยังเห็นเล่นด้วยกันบ่อยๆ จำไม่ได้แล้วหรือ” จักรยาน
ชายหนุ่มค้อมศีรษะรับ ยิ้มเป็นนัยๆ เมื่อหันไปสบตาหน้างองาที่ยืนแยก เขี้ยวอยู่ข้างๆ “คลับคล้ายคลับคลาน่ะครับ พอดีไม่เจอกันซะนาน” เหมือนจะ แขวะ และคุณปรียางค์ศรีก็เหมือนจะรับมุก กาซะลองจึงเห็นคุณยายหันมามอง หล่อนเต็มตา
“งั้นปีบคงต้องกลับมาเยี่ยมยายบ่อยๆ แล้วล่ะ เพื่อนดีๆ อย่างนายศก ปล่อยให้ลืมไม่ได้นะ เห็นมั้ย วันนั้นถ้าพ่อศกไม่มาเจอก็คงแย่”
ได้ตอบผู้ใต้บังคับบัญชา เขาเพียงแต่ปรายตามองไปทางนั้นแวบเดียว ก่อนจะ หันมาสนใจกับเอกสารที่ตำรวจจราจรผู้หนึ่งเพิ่งยื่นส่งให้ ศกรคงจะไม่ได้หันมา มองอีกเลยหากจ่าเมฆจะไม่พูดต่อว่า

จักรยานล้อโต

คนคนนั้นต้องเป็นคนแบ่งงาน คนอื่นไม่มีหน้าที่

มีบริษัทไหน องค์การไหนไหมครบ ที่มีลักษณะการทำงาน รวมศูนย์อยู่ที่คนคนเดียว
คนคนนั้นต้องเป็นประธานที่ประชุมทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการ ประชุมเล็กใหญ่
คนคนนั้น ต้องเป็นคนเซ็นเช็ค ไม่ว่าจำนวนเงินจะมากน้อยแค่
ไหน
คนคนนั้นต้องเป็นคนแบ่งงาน คนอื่นไม่มีหน้าที่
คนคนนั้นต้องเป็นคนสั่งการหากลูกค้าจะขอต่อรองราคาสินค้า
คนคนนั้นต้องเป็นคนสัมภาษณ์พน้กงานใหม่ที่มาสมัครเข้า
ทำงาน จักรยานล้อโต
ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กงานใหญ่ คนคนนั้นกลายเป็นทศกัณฐ์ที่ทำ ทุกหน้าที่
คนอื่น ๆ มีบทบาทเพียงเป็นผู้ดู
มีปรากฏการณ์แบบนี้ที่ไหน คนคนนั้นจะกลายเป็นคนที่หัว หมุนทั้งวันไม่มีเวลาจะไปขบคิดอะไรที่ไหน เรื่องใหม่ ความคิดใหม่ จักรยาน fat bike
บริษัทหรือองค์การที่ดี พนักงานจะไต้รับมอบหมายหน้าที่ ความรับผิดชอบรวมทั้งอำนาจในระดับที่เหมาะสม
ผู้บริหารที่เก่ง ย่อมจะมีเวลาว่างมาก ทั้งนี้เพราะเขาได้วางงาน ไว้กับคนอื่นอย่างเป็นระบบ และงานเหล่านั้นสามารถดำเนินไปได้
ผมมีประสบการณ์กบเพื่อนบางคนในทางไม่ดี เขาเคยทำงานชุ่ย ๆ ให้ผมเห็น เขาเคยมีปัญหาการเงิน เขาเคยนัดแล้วไม่เป็นนัด แต่เราก็ เห็นเพื่อนเป็นมิตรกนอยู่ เพราะเขามีส่วนดีอื่นๆ ที่เราสามารถ จะคบไต้ และเขาก็มีเเมือเฉพาะต้านที่คนอื่นทำอย่างเขาไม่ไต้ เราไม่ไต้ร่วมงาน กันมากกว่าสิบปี จักรยาน
เมือผมจำเป็นต้องการฟืมืออย่างเขามาร่วมงานด้วย ก็ตั้งคำถาม กับตัวเองรวมทั้งกับเพื่อน ๆ ที่ร่วมงานกันอยู่แล้วว่าเขาจะมีปัญหาอย่าง ที่เคยเป็นมาในอดีตหรือไม่ ในที่สุดก็ลองดูครับ ชวนเขามาร่วมงานด้วย
ปรากฏว่าสิ่งที่วิตกกังวลไว้นั้นไม่เกิดขึ้นตามที่คิดครับ
จากความไม่รับผิดชอบ กลายเป็นความเอาการเอางานขึ้นมา อย่างน่าชื่นใจ
จากนัดที่ไม่เป็นนัด กลายเป็นการนัดหมายที่ตรงเวลายิ่งกว่าผม
เสียอีก
จากมีปัญหาขลุกขลักบ้างในเรื่องการเงินก็กลายเป็นไม่มีปัญหา ผมจึงต้องมาวิเคราะห์ความคิดของตนเองใหม่ แล้วก็ต้องยอม รับความจริงว่าทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง คนเราสามารถเติบโต ทางความคิดไต้ วันเวลาที่ผ่านไป ทำให้คนแต่ละคนเป็นผูใหญ่ขึ้น เห็นโลกมากขึ้น สายตาก็กว้างไกลกว่าก่อน อดีตเคยชุ่ยไม่รับผิดชอบ ‘ ปัจจุบันถ้ายังเป็นแบบเดิม ก็จะเดือดร้อนทั้งตนเองและลูกเมีย เพราะ

จักรยานล้อโต